ซาบาห์ มาเลเซีย : เที่ยวศูนย์อนุรักษ์ลิงอุรังอุตังเซปิลก (Sepilok Orangutan Centre)

18-06-2025
ซาบาห์ มาเลเซีย : เที่ยวศูนย์อนุรักษ์ลิงอุรังอุตังเซปิลก (Sepilok Orangutan Centre)

สองปีผ่านไปเพิ่งจะไปฤกษ์อัพเดทบทความเกือบจะสุดท้ายของทริปมาเลเซีย ศูนย์อนุรักษ์อุรังอุตัง ซาบาห์ มาเลเซีย ตามติดชีวิตอุรังอุตังในป่าทึบ

การเดินทางไป ซานดากาน ซาบาห์ มาเลเซีย

นั่งเครื่องบินประมาณ 1 ชั่วโมง จากกัวลาลัมเปอ ที่นี่จะเป็นเหมือนเขตปกครองพิเศษ มีการสแตมป์พาสปอร์ตขาเข้าและออกด้วย จากสนามบินไปโรงแรมประมาณครึ่งชั่วโมง ใช้แกรปประมาณ 200 บาทถือว่าถูกมากเลย

ซาบาห์ มาเลเซีย

ซาบาห์เดิมเรียกว่า “นอร์ทบอร์เนียว” ปกครองโดย British North Borneo Chartered Company ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ก่อนเป็นอาณานิคมของอังกฤษในปี 1946 และเข้าร่วมสหพันธรัฐมาเลเซียในวันที่ 16 กันยายน 1963 จนกลายเป็นหนึ่งใน 13 รัฐของประเทศ โดยยังรักษาความหลากหลายทางชาติพันธุ์และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ไว้ได้อย่างน่าทึ่ง

โรงแรมใน ซานดากาน ซาบาห์ มาเลเซีย

Hotel Sandakan โรงแรมใจกลางเมือง ห่างจากชายฝั่ง Sulu Sea เพียง 220 หลา และใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาทีถึง Pasar Utara (ตลาดสดกลางเมือง) และ Harbour Mall

The Elopura Hotel ตั้งอยู่ริมน้ำใกล้ทะเล ห่างจาก Harbour Mall เพียง 0.1 ไมล์ ภายในโรงแรมมีร้านอาหารให้เลือกหลากหลาย เหมาะแก่การเช่าจักรยานหรือเรียก Grab ไปตลาดสดยามเช้า

Sandakan Backpackers Hostel โฮสเทลย่าน Harbour Square เดินถึง Harbour Mall ภายในไม่กี่นาที มีห้องครัวส่วนกลางและล็อกเกอร์ ให้คุณไปเลือกซื้ออาหารทะเลสดจากตลาดสดใกล้เคียงได้สะดวก

ศูนย์อนุรักษ์ลิงอุรังอุตังเซปิลก (Sepilok Orangutan Centre)

Sepilok เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964) โดย Sabah Wildlife Department เพื่อรับเลี้ยงและฝึกสอนลูกอุรังอุตังกำพร้าให้เรียนรู้ทักษะการเอาตัวรอดในป่า ก่อนปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ ศูนย์ฯ ตั้งอยู่ใน Kabili-Sepilok Forest Reserve บนพื้นที่กว่า 4,300 ไร่ และยังขยาย “Nursery” สำหรับลูกอุรังอุตังวัยแรกเกิดในปี พ.ศ. 2557 เพื่อรองรับการดูแลตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนพร้อมปล่อยกลับสู่ป่าอย่างเต็มที่

ที่พักเราอยู่ในเขต Sandakan เดินไปท่ารถไไม่ไกล ถ้านั่งรถเมย์ตกคนละประมาณสิบกว่าบาท บอกเขาว่าไป Sepilok คนขับบอกไปถึงที่เลย สรุปจอดแต่หน้าปากซอย ต้องเรียกแกรปเข้าไป

เราไปถึงตั้งแต่เคาเตอร์ตั๋วยังไม่เปิด ก็มีนักท่องเที่ยวไปรออยู่แล้วจำนวนนึง ค่าตั๋วคนละประมาณสองร้อยกว่าบาท มีเจ้าหน้าที่อธิบายก่อนประตูเปิด ซึ่งจุดแรกที่ไปคือจุดให้อาหาร จะเป็นห้องกระจกสองห้องมีแอร์ฉ่ำๆ แต่กระจกก็ไม่ใสมาก

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เริ่มให้อาหาร อุรังอุตังก็ทยอยมาประจำตำแหน่ง ก็จะมีลิงตัวน้อยพยายามย่องเบามาจิ๊กอาหาร จากหนึ่งตัว สองตัว ตามมาเป็นฟูง ยังดีที่อุรังอุตังได้กินครบทุกตัว

จากนั้นเราก็ย้ายไปอีกจุดนึงจะเป็นแบบเปิดมากกว่าและอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ ไม่ให้นักท่องเที่ยวใกล้ชิดมากเกินไป หรือให้อาหารเอง เพื่อให้อุรังอุตังยังใช้วิถีชีวิตของตัวเอง

ในระหว่างทางที่เรากำลังเดินกลับไปที่ทางออกนั้นก็คิดในใจว่าน่าจะได้เจอแบบใกล้ชิดมากกว่านี้ สักพักมีแม่ลูกเดินตัดหน้าเราเพื่อที่จะพาลูกไปขึ้นต้นไม้ คิดว่าเขาคงจะไม่ตื่นคนเท่าไหร่เพราะพากันค่อยๆเดินไปขึ้นต้นไม้ และนักท่องเที่ยวก็เว้นระยะห่างพอควรไม่ให้รู้สึกถึงอันตรายเกินไป เป็นภาพที่ประทับใจมาก

สุดท้ายแล้วอุรังอุตังบางตัวก็เลือกที่จะอยู่เพราะมีอาหารมาให้ บางตัวก็ออกไปใช้ชีวิตเอง หรือออกไปแล้วก็กลับมา

สรุป

เป็นเมืองที่เหมือนจะเงียบสงบแต่ก็มีช่วงเวลาที่ผู้คนพลุกพล่าน มาเยี่ยมเยียน ทานอาหาร และมาหาน้องอุรังอุตัง สายอนุรักษ์ธรรมชาติห้ามพลาด